การดูแลรักษา สุขภาพฟัน และเหงือก ในผู้ป่วยที่เป็นโรคปริทันต์

ผู้ที่เป็นโรคปริทัศน์มาก ผู้ที่มีเหงือกร่นและรากฟันโผล่ จนมีฟันโยก และเหงือกอักเสบเป็นหนอง มีอาการปวด ถ้าผู้ป่วยต้องการเก็บฟันของตัวเองไว้ ต้องทำการรักษาโรคเหงือก โดยการผ่าตัดเหงือก และกรอแต่งกระดูก ที่อยู่รอบรากฟัน ที่มีการละลายตัว ทำให้รูปร่างผิดไปจากที่ควรเป็น ให้มีรูปร่างถูกต้อง วิธีการนี้ จะทำให้กระดูกละลายเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย หรือวิธีที่ 2 ถ้าต้องการให้มีกระดูก รอบรากฟันมากขึ้น ก็ทำการปลูกกระดูก โดยใส่สารกระดูก ลงไปทดแทนกระดูกที่ละลายไป เมื่อผ่าตัดเสร็จ จะเกิดช่องระหว่างฟันแต่ละซี่ โดยเฉพาะวิธีแรก ที่มีการกรอแต่งกระดูก ส่วนวิธีการเติมสารกระดูก มักจะไม่มีช่องระหว่างฟัน แต่อาจจะเกิดช่อง ระหว่างฟันแต่ละซี่ได้บ้างในบางครั้ง ดังนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดในการจะเก็บฟันไว้ อยู่ที่การทำความสะอาดฟัน และเหงือกของผู้ป่วยเอง โดยการแปรงฟันที่ถูกวิธี ใช้เส้นใยขัดฟันทำความสะอาดซอกฟัน และต้องใช้แปรงซอกฟันโดยเฉพาะ ทำความสะอาดซอกฟันร่วมด้วย ซึ่งต้องใช้แปรงซอกฟัน สอดเข้าไปแปรงทุกซอกฟันที่เกิดขึ้น 


มีผู้ป่วยได้เล่าให้ฟังว่า เคยผ่าตัดเหงือกและตกแต่งกระดูก ทำให้เหงือกร่น มีช่องระหว่างฟันเกิดขึ้น ในครั้งแรก ไม่ได้สนใจการทำความสะอาดซอกฟัน และการแปรงฟันที่ถูกวิธี ทำให้การรักษาไม่ได้ผล ฟันโยกมากขึ้น และเหงือกอักเสบมากขึ้น แต่อยากเก็บฟันไว้ จึงยอมผ่าตัดซ้ำ และยอมทำความสะอาดซอกฟัน และแปรงฟันให้ถูกวิธี ตามที่หมอแนะนำ เขาบอกว่าต้องใช้เวลาทำนานถึง 1 ชม. ในการทำความสะอาด ให้หมดทั้งปากในแต่ละครั้ง จนหลายเดือนต่อมา ทำชำนาญขึ้น ทำให้ลดเวลาลงเหลือ 40 นาทีต่อครั้ง แต่ผลที่ได้ก็คุ้ม เพราะฟันที่เคยโยกน้อยๆ ปัจจุบันแน่นไม่โยกแล้ว ฟันที่เคยโยกมากก็โยกเพียงเล็กน้อย แต่ถ้าไม่ทำความสะอาดให้ดี เพียงไม่กี่วัน ฟันก็จะมีอาการโยกมากขึ้นทันที และเริ่มเจ็บเหงือก แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การแปรงฟันที่ถูกวิธี และการทำความสะอาดซอกฟัน ด้วยเส้นใยขัดฟัน และแปรงซอกฟัน มีความสำคัญต่อการเก็บรักษาฟัน ในผู้ป่วยที่เป็นโรคปริทันต์


น.อ. ชาตรี หัยกิจโกศล

www.yourhealthyguide.com